วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

บทที่ 3 สร้างเงิน $100 ใน 10 วันกับ Amazon.com

สร้างเงิน $100 ใน 10 วันกับ Amazon.com

สร้างเงิน $100 ใน 10 วันกับ Amazon.comสวัสดี ครับเพื่อน ๆ พี่ ๆ ครับวันนี้หลังจากที่ผมเองได้ทำการย้ายโฮสสำหรับ Makemany.com ใหม่ก็อาจมีอะไรตะกุกตะกักไปบ้าง แต่อย่างไรก็ต้องกราบขออภัยในความไม่สะดวกด้วยหนะครับ เพราะหลังจากย้ายในครั้งนี้ผมก็ถือโอกาสทำการอัพเกรด WordPress ใหม่เสียเลยครับมาใช้ WordPress 2.3.1 อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกครั้งครับ หลังจากครั้งก่อนได้เคยทำการอัพเกรดไปครั้งหนึ่ง ที่โฮสเก่าแต่ทำให้ฐานข้อมูลเสียหายไม่สามารถกู้คืนมาได้ เพราะโฮสเป็นแบบ วินโดวน์ นั่นเองครับการตั่งค่าต่าง ๆ จะทำได้ยุ่งยากกว่า Linux หนะครับเพราะว่า WordPress นั้นเหมาะกับการใช้กับโฮสที่เป็น Linux มากกว่าครับ

เอาหละนอกเรื่องไปนิด เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับเนื่องจากว่าผมอาจมีเวลาไม่มากนัก ในช่วงนี้หนะครับแต่ด้วยเหตุที่เคยสัญญาว่าจะทำการอัพเดทเนื้อหาทุกวัน ก็ต้องทำให้ได้หละครับ (ฮะๆๆๆๆๆ เดี๋ยวโดนแซว) วันนี้ผมจะมาพูดถึงกลเม็ดที่สามารถทำให้เราสร้างรายได้ภายใน 10 วันให้ได้ $100 นั่นเองครับ โดยสิ่งสำคัญที่สุดก่อนที่เราจะมีรายได้ $100 ใน 10 วันนั้นเราต้องทำการบ้าน เกี่ยวกับสินค้าและตัวสินค้าแต่ละตัวก่อนว่า ตัวไหนน่าจะสามารถขายได้ดีสุดและสามารถขายได้เร็วสุด เทคนิคนี้ให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ ดูจากสินค้าที่ขายดีในรอบสัปดาห์ หรือ ในรอบวันครับจาก Amazon Bestsellers จากนั้นให้มองหาสินค้าที่มีราคาไม่เกิน $100 หนะครับเอาสินค้าที่ไม่อยู่ในการบังคับเรทด้วย (คือสินค้าที่ Amazon จะจ่ายค่าคอมตายตัวเช่น $25 หรือ 4% ตลอดทุกชิ้น) จากนั้นลองดูปริมาณยอดขายล่าสุดว่า ผ่านไปกี่ชั่วโมงครับ ทางอเมซอน เขาจะมีบอกว่าขายไปเมื่อกี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ ให้เอาสินค้าเหล่านั้นแหละครับมาทำตลาด

แต่ด้วยเหตุที่เราเองนั้นไม่ได้ทำการโฆษณา เหมือนกับคนที่ทำโฆษณากับ PPC ซึ่งสามารถกำหนดขอบเขตและสามารถทำตลาดได้เร็วกว่า เพราะใช้ทุน เราไม่ได้ใช้ทุนตรงส่วนนั้นทำแต่ Search Engine Optimization (SEO) ล้วน ๆ ซึ่งต้องอาศัย Blog+aStore เข้าช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เราจึงต้องเริ่มงานก่อนอย่างน้อย 15 วันก่อนการที่จะเริ่มขายสินค้าเหล่านี้ได้ตามหัวข้อนี้ นั่นแสดงว่า เราทำมา 15 วันแล้วมาวัดผลอีก 10 วันจะสามารถทำ $100 ได้หรือไม่ ?

ขั้นตอนแรก
ภายหลังจากที่เราได้เลือกสินค้าเสร็จแล้ว ควรจะเลือกสินค้ามาอย่างน้อย 10-20 ตัวเพื่อทำตลาด และเริ่มเข้าสู่กระบวนการสร้างรายได้ แบบเป็นขั้นเป็นตอนในขั้นตอนนี้ ให้นำเอารายละเอียดสินค้านั้น ๆ มาโพสที่บล็อกของเราครับ ทำอย่างนี้จนครบทุกตัว จากนั้นให้เข้าไป Ping โดยใช้เครื่องมือของ Pingoat ครับเลือก Ping เฉพาะกลุ่มแรกคือกลุ่ม General หนะครับให้เลือกทุกตัว (อาจมีบางตัวที่ Ping ไม่ผ่านหนะครับ) ก็เป็นอันว่าเสร็จขั้นตอนแรกเรียบร้อย

ทีนี้หลายท่านอาจเริ่มคิดว่า เอ…แล้วเอารายละเอียดสินค้ามาโพสแล้วเราจะขายของได้อย่างไร ? เป็นคำถามที่ดีครับ สิ่งที่ผมจะแนะนำก็คือการนำ Product Links มาแปะไว้ด้วยครับ หรือไม่ก็ทำลิงค์ส่งไปยังตัวสินค้า โดยเขียนข้อความให้น่าสนใจ วิธีการเขียนนั้น ผมแนะนำว่าให้ดูจากโฆษณาใน Google Adwords ที่เขาเขียนกันครับ เราก็ไปลอกเขานั่นแหละมาครับ จากนั้นก็ทำลิงค์ส่งไปยังสินค้าใน aStore ของเรา (ต้องตรงกับเนื้อเรื่องของสินค้าด้วยหนะครับ) และอีกส่วนที่ควรจะทำก็คือ การนำเอาภาพสินค้ามาวางในเนื้อหา ซึ่งจะช่วยให้ผู้ซื้อเกิดความรู้สึกน่าสนใจมากยิ่งขึ้น และการวางลิงค์ก็อาจวางไกล้ ๆ กับภาพสินค้านั่นแหละครับ ให้ทำอย่างนี้ทุก ๆ ตัวจนครบตามจำนวนที่เราได้คัดเลือกมาแล้ว

หลังจากที่เราทำการ Ping ไปแล้วสัก 3 วันให้เช็คดูตาม Search Engine ต่าง ๆ ว่าเนื้อหาใน Blog ของเรานั้นได้รับการ Index หรือยังถ้ายังให้ใช้วิธีการ Search Engine Submission ครับเอาแบบถึงตัวเลย แล้วจะได้รับ Index ภายใน 2 วันโดยประมาณครับ

ขั้นตอนที่สอง
หา Traffic เข้ามายัง Blog ของเราโดยการใช้ Social bookmarking เครื่องมือฟรีที่เราสามารถหาได้ โดยปกติแล้วถ้าคนใช้ WordPress จะมีปลักอินที่สามารถทำได้ แต่มีข้อแม้ว่า แต่ละที่นั้นเขาจะมีเงื่อนไขให้ระวังให้ดีครับ บางแห่งเราส่งได้แค่วันละ 1 เรื่องเท่านั้น แต่บางแห่งเต็มที่ได้แค่ 3 เรื่องต่อวันถ้าเกินจากนั้นโดนแบนไม่รู้ด้วยหนะครับ ฉนั้นถ้าจะให้ปลอดภัยให้ส่งวันละ 2 หัวข้อเรื่องพอครับ ส่องอย่างนี้ประมาณ 1 สัปดาห์จะเริ่มมี Traffic เข้ามาและอาจเริ่มขายสินค้าได้

ขั้นตอนสุดท้าย
ให้ย้อนกลับไปค้นหาสินค้าและทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ตลอดทั้ง 15 วันที่เราได้วางแผนเอาไว้ วนไปมาอย่างนี้จะทำให้เราสามารถหาสินค้าได้มากพอที่จะทำตลาด มากยิ่งขึ้น

สรุปปิดท้ายครับ
การทำในลักษณะนี้อาจได้ผลเป็นบางท่านเท่านั้น แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของวิธีการที่ผมทำแล้ว ได้ผลและสามารถขายสินค้าได้โดยใช้เวลาไม่เกิน 30 วันหลังจากที่ได้ทำขั้นตอนต่าง ๆ เหล่านี้ และก็สามารถได้รับค่าคอมมิสชั่น $100 ตามแผนงานเป๊ะไม่ผิดเพี้ยนแต่ประการใดครับ


สร้างรายได้ด้วย Amazon aStore

astore-logo.bmpกระบวนการ พัฒนา aStore เพื่อให้สามารถแนะนำสินค้าได้ ด้วยหลักการของ SEO นั้นแน่นอนครับเราต้องอาศัยทั้ง Blog และเว็บไซต์เข้าช่วยในการปรับอันดับให้ดีขึ้น ในที่นี้ผมคงจะพูดถึงเรื่องอื่นใดไม่ได้นอกจากคำว่า Blog Marketing ในแบบของผมเอง จากสิ่งที่ผมคอยเฝ้าสังเกตมาหลายเดือน เพื่อทำการพัฒนาวิธีการในการทำอันดับให้แข็งแกร่งที่สุดใน Search Engine อย่างเช่น Yahoo! และ MSN ซึ่งอาจสามารถทำได้ยากกว่า Google ที่มีการจัดอันดับแบบไม่คงที่ (คือติดปุ๊บวัน สองวันจะหายไป) หรืออาจพูดได้ง่ายๆ ว่าอันดับ “เดิน” ที่เมื่อเราสามารถทำอันดับได้แล้วกลับอยู่ได้ไม่เกิน 24 ชั่วโมงเท่านั้น (จริงๆ แล้วก็มีหลายแห่งที่อยู่ได้นาน แต่ผมยังหาข้อสรุปไม่ได้)

สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่านครับวันนี้ผมจะมาพูดคุยเกี่ยวกับ aStore และ Blog Marketing กันสักนิดหนะครับ ประเด็นสำคัญอยู่ที่ Search Engine Optimization (SEO) นั่นเองครับ โดยสิ่งสำคัญที่สุดคือการแยกแยะข้อมูลระหว่างสองด้านคือ aStore กับ Blog Marketing แน่นอนครับจำนวนผู้คนเข้ามาเยี่ยมชมย่อมมาที่ Blog Marketing มากกว่า aStore อย่างแน่นอน แล้วเราจะปรับกระบวนการอย่างไรให้คนเข้าไปยัง aStore เราด้วยเพื่อที่จะได้มีโอกาสขายสินค้าได้บ้าง

สิ่งที่ผมได้ทำไปในบางส่วนนั้นก็ได้แก่การปรับข้อมูลของ aStore เช่น Description ของ Category ต่างๆ และมีการวางแผนในการปรับปรุงทุกๆ เดือนเพิ่มเติม ในขณะเดียวกันก็จะเริ่มสังเกต พวก Keywords ที่อาจมีแววสร้างเม็ดเงินให้กับ aStore (ก็อาจเดาเอาหนะครับ) และเริ่มปรับทิศทางให้ชัดเจนยิ่งขึ้น จากนั้นจะอาศัย Blog Marketing ในการกระตุ้นให้ aStore ติดอันดับในเวลาอันสั้นที่สุด สิ่งที่จะช่วยให้เร็วขึ้นและง่ายขึ้นก็ได้ถูกคิดค้นมาตลอดเวลา 3-4 เดือนที่ผ่านมาครับ เพื่อทดสอบและปรับปรุงให้เกิดผลมากที่สุด ทำให้หนึ่งเดือนที่ผ่านมา (กุมภาพันธ์ 2551) ร้าน aStore ใหม่ของผมจากบัญชีใหม่ (มีทั้งหมด 3 บัญชีสมาชิก) สามารถทำเงินได้สูงถึง $200+ เลยทีเดียว

A/C 2 Earnings Report February 1, 2008 to February 29, 2008

จากภาพนี่คือหนึ่งในบัญชีใหม่ของผมที่เริ่มทำเงินให้แล้ว เอามาเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนๆ พี่ๆ ที่กำลังทำอยู่ว่า แม้จะเพิ่งมาก็สามารถทำเงินได้ สำหรับยอดขายนี้เป็นยอดขายเดือนแรกของบัญชีนี้ครับเพราะผมเปิดเมื่อเดือน มกราคม 2551 ที่ผ่านมาครับ

เอาหละครับทีนี้ผมจะมาเล่าบอกว่าเราจะต้องทำอะไรบ้างกับ aStore ของเราก่อนที่จะเริ่ม ทำงานกับ Blog Marketing ของเรากันครับโดยขออธิบายเป็นภาพเลยแล้วกันครับ สำหรับเนื้อหาเรื่องนี้เป็นเรื่องต่อจากเรื่อง “aStore Structure For SEO” ที่ผมเคยเขียนไปแล้วตอนหนึ่งนั่นเองครับ เอาหละเรามาเริ่มต้นปรับแต่ง aStore เพื่อ SEO กันก่อนเลยดีกว่าครับ

โดยในการปรับแต่งนี้ผมขอนำตัวอย่างของ aStore ผมที่อยู่ในบัญชีเก่าก็แล้วกันครับ จะได้เพิ่มยอดขายให้มากยิ่งขึ้นหน่อย โดยผมขอนำเองร้านค้าที่ผมเองไม่เคยดูแลเลยตลอดเวลาที่ผ่านมา และยังไม่มียอดขาย เอาไว้ไปวัดกันหลังการปรับแต่งแล้ว 2 สัปดาห์พร้อมๆ กันเลยดีกว่าครับ นั่นก็คือร้าน iPod ของผมนั่นเอง โดยผมขอใช้คำค้นหาที่เจาะจงคือ Buy Cheap iPod Low Prices หนะ ครับเพื่อนๆ สามารถทำตามได้เลยหนะครับ แต่ไม่ต้องใช้ Keywords เดียวกับผมหละ เพราะผมจะยิงลิงค์จาก Blog Marketing แห่งนี้ไปด้วยครับ

เมื่อได้ Keywords ที่ผมต้องการแล้วคราวนี้ก็มาถึงขั้นตอนการปรับแต่งกันครับ ว่าเราต้องทำอะไรตรงไหนบ้างเพื่อให้สามารถทำเงินได้ให้เร็วที่สุด จากร้านที่ไม่ได้เน้นที่ Niche Keywords อย่างร้านนี้

aStore For SEO

จุดที่ 1 ที่เราควรจะทำการปรับเปลี่ยนก็คือส่วนของ Category Title ครับตรงนี้จะช่วยให้เราสามารถทำอันดับได้เช่นกัน ให้ปรับให้เหมาะสมอย่างที่เห็นนี้ผมใช้คำว่า Cheap Apple iPod? จากนั้นก็ให้เพิ่มส่วนสำคัญที่สุด ใน Category ของเราครับนั่นก็คือ Descrition Displayed ดังจุดที่ 2 ที่ผมได้ทำกรอบเอาไว้ครับ หลังจากเสร็จขั้นตอนนี้แล้วให้กดที่ Save Changes ครับ หลังจากที่ระบบได้ทำการบันทึกข้อมูลเราแล้ว ให้กดที่ Continue เพื่อไปยังขั้นตอนปรับแต่ง ซึ่งเราจะไปเปลี่ยนตรง Name Your Store ของหน้าร้านนั่นเองครับดังภาพ

การปรับแต่ง aStore เพื่อ SEO

ตรงจุดที่ผมใช้ลูกศรชี้นั่นแหละครับ โดยผมจะใส่เป็น Buy Cheap iPod Low Prices ดังที่ได้ Keywords มาในตอนแรกนั่นเองครับ จากนั้นก็กดที่ Continue ไปได้เลยครับเราก็จะได้ร้าน aStore ที่มีการปรับแต่ง Keywords เพื่อ SEO ดังภาพของร้านผมนี่แหละครับ

astore-seo-3.gif

จะเห็นได้ว่าไม่ยากเลยใช่หรือเปล่าหละครับ เพียงแค่นี้เราก็ปรับแต่ง aStore สำหรับ SEO ได้แล้วหละครับ และสิ่งที่เราจะต้องทำต่อไปก็คือการทำให้ aStore แห่งนี้ได้รับการ Index ใหม่ที่เร็วขึ้นโดยการนำสินค้าใน aStore ไปรีวิวหรือไปโพสที่บล็อกของเราที่ผมเรียกว่า Blog Marketing นั่นเองแหละครับ อย่างในตัวอย่างนี้ผมก็จะโพสกับโพสนี้เพื่อเรียก Robot ให้มาเก็บใหม่โดยใช้ Keywords ว่า Buy Cheap iPod Low Prices อย่างที่เห็นนี่หละครับ เดี๋ยวเราค่อยไปดูผลกันอีก 2 สัปดาห์ครับว่าจะสามารถทำอันดับได้หรือไม่ และจะสามารถขายสินค้าได้หรือเปล่านั่นเองครับ

สำหรับวันนี้ผมคงพูดถึงเพียงเท่านี้ครับ อย่างไรก็ตามหากผมคิดอะไรเด็ดๆ ได้ก็จะนำมาเล่าสู่กันอ่านต่อไปครับ เพื่อให้เพื่อนๆ พี่ๆ ได้สร้างรายได้กันทุกๆ คนครับ

ข้อมูลจาก http://www.makemany.com/blog-tips/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น